1. รูปแบบราคา (Price Action):
มีการทำ Higher Lows (HL) และ Lower Highs (LH) ซึ่งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวในกรอบ (consolidation) หรืออาจจะเป็น sideway ได้
จุดสูงสุด (Highs) ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุด (Lows) ที่ต่ำลงบางจุดบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกฝั่งใด โดยการ Breakout ของเส้นแนวต้านหรือแนวรับสำคัญจะเป็นตัวชี้ขาด

2. RSI (Relative Strength Index):
RSI ในช่วง Timeframes ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน neutral zone ยกเว้นกราฟ 4 ชั่วโมง ที่ RSI อยู่ในโซน Overbought (73.50%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อมากเกินไปในช่วงเวลานี้ อาจมีการปรับฐาน (correction) ในระยะสั้นได้
RSI 1 วันและ 1 สัปดาห์ยังเป็น Neutral ซึ่งบ่งบอกว่าราคายังไม่ถึงระดับที่เป็นการซื้อหรือขายเกินไป

3. จุดสำคัญอื่น ๆ:
การเคลื่อนไหวผ่านเส้น BOS (Break of Structure) และ CHoCH (Change of Character) ในบางจุด บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางในบางช่วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักเทรดในการจับทิศทางต่อไป
หากราคาสามารถ breakout ผ่านจุด LH (Lower High) ล่าสุด อาจเป็นสัญญาณของขาขึ้น
หากราคาหลุดระดับ HL (Higher Low) ที่มีการทำจุดต่ำสุดลง (LL) ราคามีแนวโน้มจะลงต่อได้

4. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวต้านที่แข็งแรงอยู่ที่ประมาณ 66,000 USDT (ใกล้กับระดับ LH) หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจส่งสัญญาณการขึ้นต่อ
แนวรับสำคัญอยู่ที่ 63,379.5 USDT หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง

สรุป: ในระยะสั้น ราคามีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจาก RSI บางช่วงเวลาแสดงว่าอยู่ในภาวะซื้อเกินไป (Overbought) แต่ในระยะยาวหากราคาสามารถทะลุแนวต้านหลักและทำ Higher Highs ต่อเนื่องได้ อาจส่งสัญญาณขาขึ้น



ดูเหมือนว่าราคากำลังอยู่ในลักษณะของ Rising Wedge เนื่องจากมีการทำ Higher Lows ต่อเนื่อง แต่การเคลื่อนไหวของราคามีการบีบตัวเข้าแคบลง หากราคาทะลุลงจากแนวรับของ Wedge อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง
จุดที่น่าสนใจคือถ้าราคาหลุดออกจากแนวรับที่ระดับประมาณ 63,379 USDT (จากข้อมูลที่แสดง) อาจเป็นสัญญาณยืนยันของการปรับตัวลงตาม Rising Wedge Pattern นี้

สรุปเกี่ยวกับ Wedge Pattern: ในกราฟนี้ ดูเหมือนจะมีลักษณะของ Rising Wedge ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านได้และหลุดออกจากแนวรับ
Chart PatternsTechnical IndicatorsTrend Analysis

Auch am:

Haftungsausschluss