เหตุการณ์ที่ผิดพลาดสำหรับมือใหม่ และผมเองในวันนี้

Aktualisiert
วันนี้เป็นวันที่ผมผิดพลาด เน่ื่องจากความโลภ และทัศนคติที่สูญเสียเงินไม่ได้ และความกลัว
ในวันที่เข้าสถานะไปคือสิ่งที่คิดคือ ทองต้องลงไป1670 อีกครั้งหนึ่ง
โดยอาศัยเหตุผลประกอบที่ดอลล่าร์ V C P และคู่เงินใกล้เคียงต่างๆ ได้หลุดแนวรับ สำคัญไปหมดแล้ว
***ด้วยความโลภจึงเปิด Short ที่ bottom ราวๆ 1726 จำนวนราว 3 LOT ซึ่งสูงกว่าปกติที่เทรดอยู่***
แน่นอนครับว่า ความโลภย่อมทำให้เราสูญเสียไม่ต่างจากผม ตลาดนี้ เป็น zero sum เกิด
มีคนเสีย เท่ากับมีคนกิน ทุกครั้งที่ขาย ย่อมมีคนซื้อ ทุกครั้งที่ซื้อย่อมมีคนขาย
สิ่งที่ความโลภซ่อนงำไว้คือ การมองข้ามแนวรับที่สำคัญ 1715-1725 (โซนแนวรับ)
และแนวรับระดับเส้น Uptrend ของกราฟ
และเส้นค่าเฉลี่ย 100 สัปดาห์ของกราฟ
มากไปกว่านั้น ในกราฟระดับชม. แสดงถึง macd ที่ bullish divergence ถึง 4 ลูก
แล้วจะไม่ได้ใช้ indicator ตรงๆ แต่นั้นก็เป็นสัญญาณบอกว่า การลงเริ่มไม่มีแรงลงแล้ว
และยิ่งมี failling wedge อีก ย่อมเป็นสัญญาณบอกว่า การลงเริ่ม สไลค์ลง และกรอบการเคลื่อนไหว แคบตัวลง

ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ไม่เห็น แต่จิตใจเราที่ถืออะไรอยู่ เมื่อมีอะไรมาบอกตรงข้าม ก็มักจะปฏิเสธ เพราะขัดแย้งกับสิ่งที่มี
โดยลืมไปว่า เราสามารถเล่นได้ทั้ง BUY SELL


ตอนประมาณ 17.00 ราคาได้กดลงไปสู่ระดับ 1722 ยิ่งทำให้้คนที่ช็อตมั่นใจมากขึ้น โดยไม่ได้สนใจเลยว่า
หายนะกำลังเกิด
ราคาได้ปรับตัวขึ้นมา ราวๆกับต้นทุนผม ซึ่งก็ทำใจได้ลำบากที่เมื่อครู่ได้กำไรอยู่ แล้วมาเท่าทุน
และราคาก็ค่อยๆ ขยับตัวขึ้นไป จนกระทั่งข่าว Non farm payroll ออกซึ่งต่ำกว่าคาด ประมาณนุึง
ทั้งใดนั้น ทองคำก็มีปฏิกริยาที่ส่งตัวสูงขึ้น ราวๆ 1731 ซึ่งณ.จุดนั้นสิ่งที่คิดคือ มันคือ falsebreak
โดยไม่ได้ขึ้นว่า เรราสามารถขายทิ้ง stop loss แล้วมาตั้งหลักเปิด Position ใหม่ก็ยังไม่สาย
เนื่องจากต้นทุนที่ได้มมา 1726 ก็ไม่ได้หายาก ถ้าณ.ราคาอยู่ที่ 1731
ซึ่งต้องยอมรับว่า market maker ของ gold นั้นทำกราฟได้แนบเนียนมาก
ขึ้นมาหลอกตรง 1731 ประมาณ 15-30 นาที
(ซึ่งอาจจะเพราะตัวเองยังปิด Positon short ไม่หมด
หรือไม่งั้นก็ยังไม่ได้ ใส่ position long เพียงพอ)
จนกระทั้งราคาได้ขึ้นไปทะลุ1737 ซึ่งคือกรอบ Failling wedge และเป็น Key resistance level ระยะสั้น
ซึ่งโดยปกติแล้ว เราก็คัสออกได้ และก็สามารถเปิด LONG ได้ (ทั้งๆที่มี volume support ว่าขึ้นจริง)
แต่ด้วยใจที่ยึดติดกับสถานะที่เราเปิด ก็ไม่ได้ขายออกมา และก็ปล่อยถือขาดทุนนานขึ้นไปอีก
จนกระทั่งราคาขึ้นสูงไปๆเรื่อยๆ จนในระดับที่เราคิดว่า ขายไปกับถือไว้ค่าเท่ากันแล้ว
ผลลัพธ์สุดท้ายคือ account burned
นี่คือตัวอย่างหายนะ และข้อสรุปเป็นข้อๆที่สำคัญดังนี้
1. คุณต้องไม่โลภ เพราะความโลภจะส่งผลให้คุณมีความรู้สึกกลัวจะไม่ได้ซื้อ / ไม่ได้ขาย FOMO (Fearing of missing out)
ซึ่งมันคือการ short ทองที่ bottom ของผมที่ 1726
1.1 ความโลภจะทำให้คุณใส่ Position sizing ที่ใหญ่กว่าปกติ
2. การที่ไม่มี Stop loss เพราะจิตใจจะถือยาว บลาๆ ซึ่งผิดหลัก
ลองคิดกลับกัน กับตอนที่กำลังถ้าเราถือได้ นานพอๆกับที่ถือขาดทุน ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ตั้งแต่ทองลงจาก 1830
ก็เชื่อว่า ได้ขายออก แล้วมาซื้อใหม่ จนกระทั้งถึงจะที่รีบาวน์แรงตรงนี้เอง
3. การยึดติดกับสถานะที่เรามีอยู่
โดยลืมคิดไปว่า ถ้าเราคัสออกไป แล้วเหลือเงินไว้ ก็ย่อมสามารถที่จะเปิดสถานะที่ถูกทางได้
4. คุณต้องหลีกเลี่ยงการซื้อตรงที่มั่นใจมากๆ และขายตรงที่มั่นใจมาก
นั้นคือการซื้อ breakhigh หรือคาดว่าจะ break high โดยที่ยังไม่ได้ break
หรือการขาย Breaklow หรือคาดว่าจะ break low โดยที่ยังไม่ได้ break
เพราะเป็นปกติที่เกมนี้ ที่ไม่มีทางที่อะไรที่มั่นใจมากๆแล้วจะได้กำไร
เพราะคนทุกๆคนในตลาดจะกำไรพร้อมกันไม่ได้
ดังนั้นถ้าคนส่วนใหญ่มั่นใจ แสดงว่า มันไม่ใช่แล้ว และเป็นสิ่งตรงข้าม
5. สุดท้ายอาจจะเป็นที่ผมคนเดียวคือ การกลัวเสียเงิน
ปกติจะเล่นน้อยๆ แล้วก็ยังมีความกลัวเสียเงิน คือมีจิตวิทยาที่ผิดในการพนัน
ซึ่งปกติเมื่อเราเข้าเล่นพนันแล้ว เราต้องยอมรับผลของการเสี่ยงนั้น
ซึ่งตรงนี้ผมก็ผิดเพิ่มอีกนึงตรงที่ โดยปกติแล้ว เราจะมี stop loss เสมอ
แต่ด้วยเหตุผลข้อ 1 ที่เราจะถือยาว กินกำไรยาว หรืออะไรก็ตาม
มันทำให้เราละเลย stop loss ไป ด้วยเหตุผลเดียวที่ว่า เราหวังแต่กำไร ไม่ได้ควบคุมความเสี่ยงเลย
ซึ่งผมตีความผิดตรงที่เราวางเงินอยู่บนโต๊ะพนันแล้ว แต่เราต้องขาดทุนจำกัด ไม่ใช่ขาดทุนไม่จำกัด
และปล่อยกำไรไม่จำกัด
ไปตีความผิดที่ว่า ปล่อยกำไรไม่จำกัด พร้อมๆกับขาดทุนไม่จำกัด

สุดท้ายอยากจะบอกทุกคนว่า
นี่คือ zero sum เกม ควรมั่นใจ ตอนคลุมเครือ ควรคลุมเครือ ตอนที่กราฟดูมั่นใจ
และอย่าคิดเองว่า breakout ถ้าไม่มี evidence ว่าเป็นจริง
จงรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นให้ได้จริง เพราะความเสี่ยงที่เยอะเกินไป จะทำให้คุณกลัว
ควบคุมการขาดทุนให้จำกัด และปล่อยกำไรไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับแผนแต่ละคนว่ากี่ RR)
ห้ามยึดติดกับสถานะที่มีอยู่ ถ้าตามตลาดผิดทาง ก็ให้เปลี่ยน
ห้ามกลัวเสียเงินน้อย เพราะมันจะทำให้เสียเงินยิ่งมาก
ผมคงต้องไปจัดการใจตัวเอง เรื่องกลัวเสียเงิน
เรื่องความโลภ
เรื่องการมองกราฟอย่างถูกต้อง (เพราะเทคนิคธรรมดาที่เรียนกันเทรดกันได้ในระยะ day แต่ระยะชั่วโมงได้น้อยมาก)

ทั้งหมดคือเรื่องราว ไม้ละ xxx นี้ของผม
Anmerkung
และสุดท้ายถ้าคุณยังไม่มีแผนการเทรด
และมีการ back test วิธีการว่า มันได้ผล
คุณก็ไม่ควรเทรด เพราะมันจะทำให้คุณไม่มั่นใจ และเกิดความกลัว
ดังนั้นผมจะต้องไปคิดค้นวิธีการเทรด แผนการเทรดที่ถูกต้อง และ back test มา
โดยใช้ function replay เพื่อให้เกิดความแม่นำย และติดตามตลาดได้ถูก
Anmerkung
เสริมสุดท้าย เราควรดูกราฟให้ทั่วทุก time frame เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง
Trend Analysis

Haftungsausschluss